วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

6 ประโยชน์ของไบโอติน (Biotin, วิตามินบี 7) !

6 ประโยชน์ของไบโอติน (Biotin, วิตามินบี 7) !


ไบโอติน

ไบโอติน
  • ไบโอติน (Biotin) หรือ วิตามินบี 7 (Vitamin B 7) หรือ วิตามินเอช (Vitamin H) เป็นวิตามินที่ละลายในน้ำซึ่งมีซัลเฟอร์เป็นส่วนประกอบ และจัดอยู่ในกลุ่มวิตามินบีรวม มีหน่วยวัดเป็นไมโครกรัม (มคก. หรือ mcg.) โดยมีส่วนสำคัญในการเผาผลาญไขมันและโปรตีน การสังเคราะห์กรดแอสคอร์บิกต้องใช้ไบโอตินเป็นตัวช่วย โดยแบคทีเรียในลำไส้ก็สามารถสังเคราะห์ไบโอตินได้ สำหรับประโยชน์โดยรวมจะช่วยรักษาสุขภาพผิวพรรณ เส้นผม และเล็บ
  • แหล่งที่พบไบโอตินตามธรรมชาติ ได้แก่ ตับวัว ไข่แดง นม แป้งถั่วเหลือง เนย ถั่วลิสง บริเวอร์ยีสต์ ข้าวที่ไม่ผ่านการขัดสี เป็นต้น
  • โรคจากการขาดไบโอติน ได้แก่ ผมร่วง ซึมเศร้า เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย หมดเรี่ยวแรง การเผาผลาญไขมันทำงานไม่สมบูรณ์ เป็นผื่นผิวหนังอักเสบบริเวณหน้าและตัว
  • ผลเสียของการรับประทานเกินขนาด ปัจจุบันยังไม่พบผู้ที่มีอาการเป็นพิษจากการรับประทานไบโอตินเกินขนาดติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน และศัตรูของไบโอติน ได้แก่ ไข่ขาวดิบ (เพราะมีอะวิดิน ซึ่งเป็นตัวขัดขวางการดูดซึมของวิตามินเอชหรือไบโอติน) น้ำ แอลกอฮอล์ ยาในกลุ่มซัลฟา ฮอร์โมนเอสโตรเจน และกระบวนการแปรรูปอาหาร

ประโยชน์ของไบโอติน

  1. ไบโอติน ช่วยป้องกันผมหงอกได้ดีไบโอติน
  2. ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ
  3. ช่วยในการเผาผลาญไขมันและโปรตีน
  4. ช่วยป้องกันและรักษาโรคเกี่ยวกับเส้นผมและหนังศีรษะล้าน
  5. ช่วยบรรเทาอาการผื่นผิวหนังอักเสบ ผดผื่นคันต่าง ๆ
  6. ช่วยป้องกันและบำรุงรักษาเล็บที่แห้งเปราะ

คำแนะนำในการรับประทานไบโอติน

  1. ไบโอตินในรูปแบบอาหารเสริม มีขนาดรับประทานทั่วไปตั้งแต่ 25 – 300 ไมโครกรัมต่อวัน โดยมักจะรวมอยู่ในอาหารเสริมประเภทวิตามินบีรวมและวิตามินรวมทั่วไป
  2. ขนาดที่แนะนำให้รับประทานต่อวันคือ 100 – 300 ไมโครกรัม
  3. ไข่ดิบจะลดการดูดซึมของวิตามินเอช
  4. หากรับประทานเครื่องดื่มปั่นโปรตีนสูงที่มีไข่ดิบผสมอยู่ ควรรับประทานไบโอตินเสริม
  5. ผู้ที่รับประทานยาปฏิชีวนะหรือยาในกลุ่มซัลฟา ควรรับประทานไบโอตินเพิ่มอย่างน้อย 25 ไมโครกรัม ต่อวัน
  6. ผู้ที่มีปัญหาผมร่วง การรับประทานไบโอตินก็เป็นทางออกที่ดี
  7. ขณะตั้งครรภ์ ระดับของไบโอตินจะลดลง คุณควรรับประทานไบโอตินเสริม
  8. การรับประทานไบโอติน 300 ไมโครกรัม ทุกวันเป็นเวลา 3 เดือน สามารถรักษาอาการเล็บแห้ง ฉีก เปราะได้ โดยหากอาการดีขึ้นค่อยปรับลดขนาดลง
  9. ไบโอติน หรือ Vitamin H จะทำงานเสริมซึ่งกันและกันกับวิตามินบี 1 วิตามินบี 3 วิตามินบี 6 และวิตามินเอ ได้เป็นอย่างดี
แหล่งอ้างอิง : หนังสือวิตามินไบเบิล (ดร.เอิร์ล มินเดลล์)
เรียบเรียงข้อมูลโดยเว็บไซต์เมดไทย (MedThai)
------------------------------------------------------------------------------------
ติดตามเราเป็นเพื่อนเฟสบุคหมอยานเรศวร  http://www.facebook.com/moryanaresuan  
ติดตามเราเป็นเพื่อนทางไลน์ http://line.me/ti/p/%40morya
สนใจสินค้าสุขภาพและความงาม http://www.moryanaresuan.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น