แฟ้มภาพ
ปัจจุบันสภาพคนในสังคมมีความเครียดเพิ่มมากขึ้น ด้วยปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่อสภาวะจิตใจ ทำให้มีอาการทางจิตเวชโดยไม่รู้ตัว วันนี้เราจะมาพูดกันถึงเรื่องของ “โรคดึงผม” ที่หลายคนอาจไม่รู้ว่านี่ก็เป็นอีกหนึ่งอาการทางจิตเวชที่ต้องได้รับการรักษา เนื่องจากโรคดังกล่าวส่งผลกระทบต่อบุคลิกภาพและสภาวะจิตใจ
โรคดึงผม อาจเกิดขึ้นโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว โดยส่วนมากพบว่าผู้ป่วยมักมีอาการร่วมกันทั้ง 2 แบบ ซึ่งอาจจะรู้ตัวมากกว่าไม่รู้ตัวหรือไม่รู้ตัวมากกว่ารู้ตัวแล้วแต่กรณีไป โดยการกระทำขณะที่รู้ตัวผู้ป่วยอาจจะรู้สึกไม่สบายหนังศีรษะ คัน หรือรู้สึกยุกยิกๆ รวมไปถึงรู้สึกว่าเส้นผมไม่ตรงไม่เรียบทำให้อยากดึงออก เมื่อดึงออกแล้วจะรู้สึกสบายใจขึ้น รู้สึกโล่งขึ้น ขณะที่การดึงผมโดยไม่รู้ตัว มักจะดึงระหว่างทำกิจกรรมอื่นๆอยู่ เช่น ดูโทรทัศน์ อ่านหนังสือ ทำงาน เป็นต้น เป็นการกระทำแบบเผลอที่ไม่รู้ตัวและไม่ได้ตั้งใจ
สำหรับอาการดึงผมปัจจุบันพบผู้ป่วยในอัตรา 4% ของคนทั่วไป สามารถพบได้ในทุกเพศและทุกวัย ในวัยเด็กอาจจะไม่รุนแรงและค่อยๆ รุนแรงขึ้นเมื่ออยู่ในช่วงวัยรุ่น สำหรับวัยผู้ใหญ่มักมีอาการเรื้อรังยาวนานแต่เพิ่งมารักษา และจะรักษาได้ไม่ดีเท่ากับวัยเด็กและวัยรุ่น บางกรณีมีการรับประทานเส้นผมเข้าไปด้วยก็จะส่งผลให้มีการสะสมในลำไส้ เกิดการอุดตันและส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดยปัญหาหลักๆ ที่เกิดจากการดึงผมคือเสียบุคลิกภาพ ทั้งพฤติกรรมที่เป็นอยู่ และจากปัญหาศีรษะล้าน
ปัจจัยที่ทำให้เป็นโรคดึงผม อาจมีโรคทางจิตเวชบางอย่าง เช่น วิตกกังวลประเภทย้ำคิดย้ำทำ หรือการเป็นโรคซึมเศร้า รวมถึงพันธุกรรมก็เป็นปัจจัยหนึ่ง อาจมีสมาชิกในครอบครัวเป็นโรคดึงผมเหมือนกัน หรือแม้กระทั่งความผิดปกติทางสมองและสารเคมีในสมอง สมาธิสั้น มีความเครียด หรือมีปัญหาทางด้านปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น เป็นต้น วิธีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก่อนอื่นต้องให้ผู้ป่วยรู้ตัวก่อนว่าเป็นโรคชอบดึงผม โดยเฉพาะในกรณีที่ดึงโดยไม่รู้ตัว เพื่อให้ผู้ป่วยควบคุมพฤติกรรมของตัวเอง แต่อย่าใช้วิธีการดุว่าหรือตำหนิแรงๆ ให้ใช้วิธีเตือนให้เหมาะสม เพราะถ้าหากใช้อารมณ์ในการตำหนิ ผู้ป่วยอาจจะยิ่งดึงผมมากขึ้นก็ได้
วิธีการรักษาให้ผู้ป่วยหรือคนรอบข้างลองสังเกตพฤติกรรมก่อนว่าเวลาดึงผม ผู้ที่เป็นมักดึงผมตัวเองเวลาไหน เวลาเหงา เศร้า เบื่อ หรือเครียด เป็นต้น หรือชอบดึงผมในสถานการณ์ใด เช่น ขณะนั่งดูโทรทัศน์ ขณะนอนอยู่ในห้อง ฯลฯ เมื่อผู้ป่วยรู้ตัวแล้วก็จะควบคุมตัวเองได้ง่ายขึ้น สำหรับวิธีการรักษานอกเหนือจากนี้ก็คือการให้ยา โดยผู้ป่วยต้องไปปรึกษาแพทย์ก่อนเมื่อเริ่มรู้ตัวว่าตนเองมีอาการเหล่านี้
ที่มา : รามาแชนแนล Rama Channel
ที่มา : รามาแชนแนล Rama Channel
------------------------------------------------------------------------------------
สนใจสินค้าสุขภาพและความงาม http://www.moryanaresuan.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น