วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

10 พฤติกรรมนำพาเชื้อดื้อยา รู้ไหมว่าอันตรายถึงชีวิต !

เชื้อดื้อยา
ภาพจาก stocksnap.io
          ปัญหาเชื้อดื้อยาคร่าชีวิตคนไทย 1 คน ทุก 15 นาที เพราะการทานยาปฏิชีวนะ เช่น ยาแก้อักเสบ อย่างพร่ำเพรื่อเพื่อรักษาอาการเจ็บคอ ไอ หวัด

          ปลายปีแบบนี้โรคหวัดถือเป็นหนึ่งในโรคยอดฮิต เพราะหลายพื้นที่เริ่มอากาศหนาวเย็นลง และในผู้ป่วยหลายรายมักเข้าใจว่าการรักษาโรคหวัด ต้องใช้แต่ยาปฏิชีวนะเท่านั้น ซึ่งความเข้าใจนี้เป็นเรื่องที่ผิดที่ทำให้เกิด "เชื้อดื้อยา" อันตรายแฝงจากการใช้ยาไม่ถูกต้อง
          ผศ. นพ.พิสนธิ์ จงตระกูล ประธานคณะทำงานสร้างเสริมความเข้มแข็งภาคประชาชนด้านการใช้ยาอย่างสมเหตุผล (สยส.) ให้ข้อมูลว่า การดื้อยาเกิดจากการใช้ยาปฏิชีวนะ หรือยาต้านแบคทีเรียมากจนเกินไป ทำให้เชื้อแบคทีเรียมีการปรับตัวและพัฒนาตัวเองขึ้นจนกลายเป็นซูเปอร์บัค (Super Bug) ที่ดื้อต่อยาและหายารักษาได้ยากจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตจากการติดเชื้อในที่สุด โดยปัจจุบันพบว่า ในทุก 15 นาทีมีคนไทย 1 คนตายเพราะเชื้อดื้อยาและพบว่ามีอัตราการเสียชีวิตจากเชื้อดื้อยาประมาณปีละ 20,000-38,000 คน การใช้ยาปฏิชีวนะที่แรงขึ้น ยิ่งทำให้เสี่ยงต่อการแพ้ยาและผลข้างเคียงมากขึ้น

          "ยาปฏิชีวนะจะให้ผลในการรักษาโรคที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี เช่น โรคปอดบวม กระเพาะปัสสาวะอักเสบ การติดเชื้อที่ไต การติดเชื้อในกระแสเลือด เป็นต้น แต่คนไทยมีความเข้าใจผิดในการใช้ยา ซึ่งการเจ็บป่วยด้วยอาการเพียงเล็กน้อย เช่น อาการโรคหวัด เจ็บคอ ไอ จามสามารถหายได้เองถ้าไม่มีอาการติดเชื้อเพิ่ม ยาปฏิชีวนะไม่มีผลต่อการดำเนินการของโรคแต่อย่างใด และการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างพร่ำเพรื่อยังเพิ่มโอกาสให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอีกด้วย" ผศ. นพ.พิสนธิ์ กล่าว

สำหรับ 10 พฤติกรรม ต้นเหตุเชื้อดื้อยา ได้แก่


เชื้อดื้อยา

1. เคยซื้อยาต้านแบคทีเรียกินตามคนอื่น

          การซื้อยาต้านแบคทีเรียมารับประทานเองอาจได้ยาที่ไม่สามารถฆ่าเชื้อโรคนั้นได้ และส่งผลให้เชื้อโรคพัฒนาตัวมันเองไปสู่การดื้อยาได้

2.  เคยหยุดรับประทานยาต้านแบคทีเรียเมื่ออาการดีขึ้น


          ยาต้านแบคทีเรีย ต้องรับประทานติดต่อตามที่กำหนด หากหยุดรับประทานอาจมีเชื้อโรคหลงเหลืออยู่และเชื้อโรคจะพัฒนาตัวเองไปสู่การดื้อยาได้

เชื้อดื้อยา

3. เคยซื้อยาต้านแบคทีเรียกินเองตามที่เคยได้รับจากบุคลากรทางการแพทย์ ในครั้งก่อน ๆ

          ยาต้านแบคทีเรียแต่ละชนิดจะมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคแต่ละชนิดต่างกัน การใช้ยาต้านแบคทีเรียโดยไม่เลือกให้เหมาะกับชนิดเชื้อโรค นอกจากจะทำให้ไม่หายแล้ว ยังส่งผลให้เชื้อโรคพัฒนาตัวมันเองไปสู่การดื้อยาได้

4. ยาอมที่ผสมยาต้านแบคทีเรีย

          การใช้ยาต้านแบคทีเรียฆ่าเชื้อโรค ต้องใช้ในขนาดที่เหมาะสมและต้องใช้ติดต่อให้ครบตามระยะเวลาที่กำหนด การใช้ยาอมที่ผสมยาต้านแบคทีเรีย นอกจากจะเป็นการใช้ยาในขนาดที่ไม่เหมาะสม ยังเป็นการใช้ยาที่เกินความจำเป็น และอาจทำให้เกิดเชื้อดื้อยาได้

เชื้อดื้อยา

5. เปลี่ยนไปใช้ยาต้านแบคทีเรียชนิดที่แรงกว่าด้วยตนเอง

          การใช้ยาต้านแบคทีเรียฆ่าเชื้อโรค ต้องใช้ในขนาดที่เหมาะสม บางครั้งอาการเจ็บป่วยต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรอาการถึงจะดีขึ้น การเปลี่ยนตัวยาที่แรงขึ้น อาจทำให้เกิดเชื้อดื้อยาได้

6. เอายาต้านแบคทีเรียโรยแผล

          นอกจากจะเป็นการใช้ยาที่ไม่เหมาะสมแล้ว ยังทำให้แผลสกปรกและเสี่ยงต่อการเกิดอาการแผลอักเสบลุกลามได้ เพราะผงในแคปซูลไม่ได้มีแต่ตัวยาเท่นั้น ยังมีผงแป้งผสมอยู่ด้วย แลอาจทำให้เชื้อโรคที่แผลพัฒนาตัวมันเองไปสู่การดื้อยาได้

เชื้อดื้อยา

7. ใช้ยาต้านแบคทีเรียผสมในอาหารสัตว์

          เป็นการใช้ยาที่ผิด และอาจไม่ได้ผลอีกด้วย เนื่องจากขนาดยาที่ไม่แน่นอน นอกจากนี้อาจทำให้เชื้อโรคพัฒนาตัวมันเองไปสู่การดื้อยาได้

8. ใช้ยาต้านแบคทีเรียโดยไม่ทราบชื่อสามัญของยา

          นอกจากจะเสี่ยงที่จะได้รับยาที่เคยแพ้แล้ว อาจได้รับยาที่ไม่ตรงกับเชื้อโรค

เชื้อดื้อยา

9. เคยไปซื้อยาแก้อักเสบกินเอง

          อาการอักเสบตามความเข้าใจของคนทั่วไปมีหลายแบบ เช่น อาการปวดอักเสบจากแผลหนอง อักเสบเจ็บคอ หรืออักเสบจากการปวด และไปซื้อยาแก้อักเสบกินเอง ทำให้อาจได้ยาต้านแบคทีเรียมาแทนยาแก้ปวดอักเสบ เป็นการใช้ยาแบบไม่จำเป็น

10. การไม่แนะนำคนที่ใช้ยาต้านแบคทีเรีย ใช้ยาอย่างเหมาะสม

          การเพิกเฉยของเราเท่ากับการปล่อยให้มีการใช้ยาต้านแบคทีเรียที่ไม่เหมาะสมขึ้นในสังคม สุดท้ายเมื่อเชื้อโรคพัฒนาตัวเองไปสู่เชื้อดื้อยา ปัญหาจะกลับมาส่งผลต่อตัวเรา ครอบครัว และผู้ป่วยคนอื่น ๆ ในอนาคตได้

          ทั้งนี้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สนับสนุนทางศูนย์วิชาการเฝ้าระวังและพัฒนาระบบยา (กพย.) จัดทำสื่อให้ความรู้เกี่ยวกับเชื้อดื้อยาที่ รวมถึงชุดความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการใช้ยาปฏิชีวนะที่ถูกโรคถูกวิธีอีกมากมายเพื่อให้ประชาชนเข้าใจแหละตระหนักในเรื่องของการใช้ยาอย่างเหมาะสม โดยสามารถดูรายละเอียดได้ที่ atb-aware.thaidrugwatch.org และ เฟซบุ๊ก Antibiotic Awareness Thailand

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

เรื่องโดย : กิดานัล กังแฮ Team Content
ข้อมูลจาก : ศูนย์วิชาการเฝ้าระวังและพัฒนาระบบยา (กพย.) และงาน "สัปดาห์รู้รักษ์ ตระหนักใช้ยาต้านแบคทีเรีย ประจำปี 2559"

------------------------------------------------------------------------------------
ติดตามเราเป็นเพื่อนเฟสบุคหมอยานเรศวร  http://www.facebook.com/moryanaresuan  
ติดตามเราเป็นเพื่อนทางไลน์ http://line.me/ti/p/%40morya
สนใจสินค้าสุขภาพและความงาม http://www.moryanaresuan.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น